ในอัลกุรอาน ได้กล่าวว่าบริเวณนี้เคยเป็นของเผ่าษะมูดในสมัยของนบีศอเลียะห์ โดยเผ่านี้ถูกอัลลอฮ์ (พระเจ้า) ลงโทษโดยให้เกิดแผ่นดินไหวและฟ้าผ่าในบริเวณนี้ เพราะเผ่านี้หลงไปสักการะรูปปั้น (ซึ่งผิดหลักศาสนาอิสลาม) จึงทำให้บริเวณนี้เป็นพื้นที่ต้องคำสาป
ใน ค.ศ. 2008 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนมะดาอินศอเลียะห์เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกของซาอุดีอาระเบีย
ชื่อ
ชื่อของสถานที่นี้มีอยู่หลายชื่อ โดยที่สตราโบและนักเขียนแถบเมดิเตอเรเนียนได้ใช้ชื่อว่าเฮกรา ส่วนชื่อปัจจุบันตั้งตามชื่อของนบี (ศาสดา) ศอเลียะห์ และชื่อ อัลฮิจญร์ ("แดนหิน" หรือ "บริเวณที่มีหิน") ถูกใช้สำหรับภูมิประเทศของที่นี่
ประวัติ
ในอัลกุรอาน
ในช่วงประมาณสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของชาวษะมูด โดยเป็นเผ่าที่สลักหินเป็นที่อยู่อาศัย และเผ่านี้เป็นเผ่าที่ชอบสักการะรูปปั้น และชอบกดขี่ นบีศอเลียะห์ (ซึ่งกลายเป็นชื่อของสถานที่นี้ในปัจจุบัน) ได้เรียกให้เผ่าษะมูดขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ แต่พวกเขาปฏิเสธ แล้วท้าให้ศอเลียะห์นำอูฐเพศเมียที่ตั้งท้องออกมาจากภูเขาลูกหนึ่ง และแล้ว อูฐตัวนั้นก็ออกมาตามพระบัญชาของอัลลอฮ์ เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ของศอเลียะห์ แต่อย่างไรก็ตาม มีคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่เชื่อ ส่วนคนที่ไม่เชื่อได้ลงมือฆ่าอูฐศักดิสิทธิ์ (ซึ่งผิดสัญญาตามที่พวกเขาบอกว่าจะรักษาอูฐอย่างดี) และลูกของมันก็วิ่งกลับไปที่ช่องเขาเดิมที่มันมา ชาวษะมูดถูกเตือนให้เตรียมการลงโทษในเวลา 3 วัน และเนื่องจากว่าพวกเขาไม่เชื่อเรื่องการลงโทษ ศอเลียะห์กับผู้ศรัทธาก็ออกจากเมืองนี้ไป ส่วนพวกที่ไม่ออกก็ถูกลงโทษโดยอัลลอฮ์—วิญญาณของพวกเขาออกจากร่างในช่วงที่มีแผ่นดินไหวและฟ้าร้องกัมปนาท
สมัยโรมัน
ในปี ค.ศ.106 อาณาจักรนาบาเทียนถูกครอบครองโดยจักรวรรดิโรมัน และทำให้แคว้นฮิญาซกลายเป็นจังหวัดอาระเบีย
ประวัติของบริเวณนี้ตั้งแต่จักรวรรดิโรมันล่มสลายจนถึงการมาของศาสนาอิสลาม ยังไม่ทราบแน่ชัด โดยมีบันทึกจากนักเดินทางและผู้แสวงบุญที่เดินทางไปมักกะฮ์เท่านั้น อัลฮิจญร์กลายเป็นสถานีที่ให้สิ่งของและน้ำแก่ผู้ทำฮัจญ์ และมีรายงานจากอิบน์ บัตตูเตาะฮ์ในศตวรษที่ 14 ว่า บริเวณนี้มีแต่บ้านที่ถูกสลักเป็นที่อยู่อาศัย และไม่มีกิจกรรมของมนุษย์อยู่ตรงนี้
ดูเพิ่ม
- อิรอมแห่งเสาเข็ม
- ลิฮยาน
- ราชอาณาจักรแนบาเทีย
- เมืองโบราณในซาอุดีอาระเบีย
สารานุกรม
- Abdul Rahman Ansary; Ḥusayn Abu Al-Ḥassān (2001). The civilization of two cities: Al-ʻUlā & Madāʼin Sāliḥ. Riyadh: Dar Al-Qawafil. ISBN . ISBN
- Mohammed Babelli (2003). Mada’in Saleh. Riyadh: Desert Publisher. ISBN . (I./2003, II./2005, III./2006, IV./2009.)
แหล่งข้อมูลอื่น
- World Heritage listing submission
- Photo gallery at nabataea.net
- Personal website on Hegra (Madain Saleh) (picture, text, map, video and sound) at hegra.fr
- Photos from Mauritian photographer Zubeyr Kureemun
- Historical Wonder by Mohammad Nowfal
- Saudi Arabia's Hidden City from France24
- Madain Salah: Saudi Arabia's Cursed City
วิดีโอ
- The Road to Madain Salah
- Round in Madain Salah : Part1 – Part2 – Part3 – Part4