มหามัสยิดแห่งมักกะฮ์ รู้จักกันในชื่อ มัสยิด อัล-ฮะรอม (อาหรับ: ٱلْـمَـسْـجِـد الْـحَـرَامٱلْـمَـسْـجِـد الْـحَـرَام, "มัสยิดต้องห้าม" หรือ "มัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์":471) หรือ มหามัสยิดประจำมักกะฮ์ เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นกิบลัตของศาสนาอิสลาม (อาหรับ: قِـبْـلَـةقِـبْـلَـة, ทิศของการสักการะ) มีกะอ์บะฮ์ในแคว้นฮิญาซ เมืองมักกะฮ์ (อาหรับ: مَـكَّـةمَـكَّـة, มักกะฮ์) ประเทศซาอุดีอาระเบีย มุสลิมจะหันหน้าหากะอ์บะฮ์ในช่วงการละหมาด (อาหรับ: صَـلَاةصَـلَاة, การสักการะของศาสนาอิสลาม) หนึ่งในห้าหลักการอิสลามที่มุสลิมต้องไปทำฮัจญ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต (อาหรับ: حَـجّحَـجّ, 'การจาริกแสวงบุญ') รวมถึงการตอวาฟ (อาหรับ: طَـوَافطَـوَاف, การเดินรอบ) รอบกะอ์บะฮ์ มหามัสยิดนี้มีหินดำ, ซัมซัม, มะกอมอิบรอฮิม และซอฟา-มัรฺวะฮ์ มัสยิดนี้เปิดตลอดเวลาโดยไม่คำนึงถึงวันที่และเวลา. เคยอยู่ภายใต้รัฐเคาะลีฟะฮ์, สุลต่าน และกษัตริย์ ตอนนี้ถูกปกครองโดยผู้ปกครองสองมัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ ข้างหน้ามีหอนาฬิกาทีมีชื่อว่า อับราจ อัล บัยตฺ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และมีการขยายมัสยิดอยู่หลายรอบ
ในอัลกุรอ่าน [2:127] อธิบายว่าอิบรอฮีม (อาหรับ: إِبْـرَاهِـيْـمإِبْـرَاهِـيْـم, Abraham) กับอิสมาอีล (อาหรับ: إِسْـمَـاعِـيْـلإِسْـمَـاعِـيْـل, Ishmael) ได้สร้างกะอ์บะฮ์ในบริเวณที่พระผู้เป็นเจ้าตรัสและชี้ไปที่บริเวณที่อยู่ใกล้กับบ่อน้ำซัมซัม ประมาณ 2130 ก่อนคริสตกาล หลังจากที่อิบรอฮีมสร้างกะอ์บะฮ์แล้ว มะลาอีกะฮ์ได้นำหินดำ รายงานจากความเชื่อว่าหินนี้ได้ตกลงมาจากสวรรค์ ลงไปยังบริเวณใกล้ๆ เทือกเขาอบู กุบัยด์ และศาสดามุฮัมหมัดได้กล่าวว่า หินดำ "ลงมาจากสวรรค์โดยที่มันเป็นสีขาว แต่เนื่องจากบาปของลูกหลานอาดัมทำให้มันเป็นสีดำ" หินดำจึงถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งเดียวที่ยังคงเหลือจากการก่อสร้างครั้งแรก
จนกระทั่งมุฮัมหมัดยึดครองมักกะฮ์ในค.ศ.630 เขาและอะลีทำลายรูปปั้นทั้งหมดตามที่กุรอ่านอธิบายไว้ เป็นจุดสิ้นสุดของพหุเทวนิยมและเริ่มการปกครองแบบเอกเทวนิยม.
การปรับปรุงครั้งแรกเริ่มในปีค.ศ.692 โดยอับดุลมาลิก อิบนุ มัรฺวาน หลังจากศตวรรษที่ 8 เสามัสยิดถูกเปลี่ยนเป็นกระเบี้องโดยอัลวะลีดที่ 1
ในปี 1570 สุลต่านเซลิมที่ 2 และมิมาร ซินาน ปรับปรุงมัสยิด โดยสิ่งก่อสร้างนี้ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
การขยายครั้งใหญ่เกิดขึ้นระหว่าง 1955 และ 1973 โดยเพิ่มหออะซานสี่หอ เปลี่ยนเพดาน และพื้นให้สวยขึ้น ในระหว่างการปรับปรุงมีหลายอย่างที่สร้างในสมัยออตโตมันถูกทำลาย
ในปี 2007 มีการขยายมัสยิดที่จะเสร็จในปี 2020 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูดเพื่อเพิ่มความจุกว่าสองล้านคน อย่างไรก็ตามพระองค์สวรรคตในปี 2015 หลังจากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูดได้ดำเนินโครงการต่อ โดยในปี 2016 โดยมีค่าใช้จ่ายกว่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์
มีการโต้เถียงกันว่าการขยายมัสยิดอัลฮะรอมอาจจะทำลายสถานที่สำคัญในยุคต้นของศาสนาอิสลาม บางอันมีอายุกว่า 1000 ปี ถูกทำลายเพื่อการขยาย ตัวอย่างเช่น: