ปราสาทบาร์กลีย์

ปราสาทบาร์กลีย์ (อังกฤษ: Berkeley Castle) ตั้งอยู่ในเทศมณฑลกลอสเตอร์เชอร์ของประเทศอังกฤษ ปราสาทถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1153 โดยวิลเลียม ฟิตซ์ออสเบิร์น เอิร์ลแห่งเฮริฟอร์ด เพื่อควบคุมแม่น้ำลิตเติลเอวอนและหุบเขาเซเวิร์น ปราสาทกลายเป็นสถานที่อื้อฉาวเมื่อเป็นที่จองจำพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และเป็นที่ต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่ฆาตกรรมพระองค์ในปี ค.ศ. 1327

ยุคนอร์มัน

ในยุคที่ชาวนอร์มันเข้ารุกรานอังกฤษ ปราสาทบาร์กลีย์เป็นแมนเนอร์ซึ่งอยู่ในการครอบครองของพระเจ้าแฮโรลด์ ก็อดวินสัน หลังพระองค์สิ้นพระชนม์ที่สมรภูมิเฮสติงส์ในปี ค.ศ. 1066 บาร์กลีย์ตกเป็นของพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทว่าในปี ค.ศ. 1067 กษัตริย์ได้ตั้งตำแหน่งเอิร์ลขึ้นมาสามตำแหน่ง คือ เอิร์ลแห่งเฮริฟอร์ด, เอิร์ลแห่งชรูส์บรี และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์ และได้พระราชทานตำแหน่งดังกล่าวให้แก่บุคคลสำคัญเพื่อให้ทำหน้าที่สกัดกั้นชาวเวลส์ เฮริฟอร์ดตกเป็นของวิลเลียม ฟิตซ์ออสเบิร์น (กีโยม ฟิตซ์โอสแบน) ซึ่งได้รับพระราชทานดินแดนขนาดใหญ่ กินพื้นที่ของบริสตอล, เฮริฟอร์ดเชอร์, เวลส์ตะวันออกเฉียงใต้ และกลอสเตอร์เชอร์ (รวมถึงบาร์กลีย์) เขาได้สร้างปราสาทเนินโครงสร้างไม้ขึ้นบนพื้นที่ที่จะใช้ควบคุมแม่น้ำลิตเติลเอวอนและหุบเขาเซเวิร์น

ปราสาทของฟิตซ์ออสเบิร์นประกอบด้วยเนินซึ่งคาดว่ามีรั้วและหอคอยไม้อยู่ด้านบน ทางตะวันออกเฉียงใต้ที่ลานสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ล้อมรอบด้วยกำแพงดิน ผู้ทำหน้าที่พิทักษ์ปราสาทคือรอเจอร์ซึ่งถูกเรียกว่าเดอ บาร์กลีย์ เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1093 แต่รอเจอร์ บุตรชายของเขาน่าจะได้เป็นเจ้าของปราสาทอย่างสมบูรณ์ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 1 รอเจอร์ได้มอบความบันเทิงให้แก่พระเจ้าเฮนรีที่ 1 ที่ปราสาทในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของปี ค.ศ. 1121

รอเจอร์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1131 ผู้สืบทอดต่อคือบุตรชายของเขาซึ่งมีว่าชื่อรอเจอร์เช่นกัน เขายังคงเป็นเจ้าของปราสาทในช่วงการอุบัติของยุคอนาธิปไตย ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองแย่งชิงสิทธิ์ในการสืบทอดอังกฤษระหว่างสตีเฟนและมาทิลดา รอเจอร์เป็นบุคคลที่มีสำคัญ ในช่วงแรกเขาน่าจะให้การสนับสนุนสตีเฟน แต่ได้เปลี่ยนฝั่งในช่วงที่เกิดสงคราม ซึ่งอาจเป็นผลเนื่องมาจากการที่หลานสาว (บุตรของพี่น้อง) ของเขาได้สมรสกับฟิลิปแห่งกลอสเตอร์ บุตรชายของผู้บัญชาการกองทัพของมาทิลดา กองกำลังฝ่ายพระเจ้าสตีเฟนได้ปิดล้อมปราสาทบาร์กลีย์และรอเจอร์ถูกจับกุมตัวได้นอกกำแพงปราสาท เขาถูกจับแก้ผ้าแขวนโซ่เพื่อให้ทหารรักษาการณ์ยอมจำนน ปราสาทไม่ยอมจำนนและรอเจอร์ที่อยู่ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายถูกลากตัวไปทั้งโซ่ แต่สุดท้ายเขาก็ได้ทรัพย์สินของตนกลับคืนมา

ยุคราชวงศ์แพลนแทเจเนต

ยุคอนาธิปไตยยุติได้ด้วยข้อตกลงที่ระบุว่าพระเจ้าสตีเฟนจะยังคงเป็นกษัตริย์ต่อไป แต่ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือเฮนรี แพลนแทเจเนต บุตรชายของมาทิลดา เฮนรีต้องการให้รางวัลแก่ผู้สนับสนุนจึงได้ยกปราสาทบาร์กลีย์ให้แก่รอเบิร์ต ฟิตซ์ฮาร์ดิง มอริส บุตรชายของเขาได้สมรสกับอาลิส ธิดาของรอเจอร์ เดอ บาร์กลีย์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการต่อต้านราชวงศ์ในภายหลัง ตัวรอเจอร์ เดอ บาร์กลีย์เองได้เกษียณตัวไปอยู่ในทรัพย์สินที่ดินของตนเองในคับเบอร์ลีย์และเดิร์สลีย์ และถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1170 ซึ่งในช่วงที่อยู่ในการครอบครองของรอเบิร์ต ฟิตซ์ฮาร์ดิง ปราสาทบาร์กลีย์ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยใช้หิน กำแพงหุ้มตึกหลักของปราสาทถูกสร้างขึ้นใกล้ ๆ กับเนินดิน โดยงานสร้างเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1153 และมีการสร้างหอคอยยื่นออกมา กำแพงรอบนอกที่ล้อมลานกว้างถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1160 มีการขุดคูน้ำทางตะวันออก, ตะวันตก และทางใต้ของปราสาท ทางเหนือมีปราการป้องกันเป็นเนินชันขั้นบันไดที่ทอดสู่บึงเลน

ผู้สืบทอดต่อจากมอริส (ซึ่งใช้นามสกุล เดอ บาร์กลีย์) คือบุตรชายของเขาซึ่งมีชื่อว่ารอเบิร์ต เขาได้ให้การสนับสนุนกลุ่มบารอนผู้ต่อต้านพระเจ้าจอห์น ปราสาทบาร์กลีย์ถูกใช้เป็นที่ประชุมพลของบารอนในเคาน์ตีทางตะวันตกก่อนออกเดินทางไปรันนีเมดเพื่อประทับตราในแม็กนาคาร์ตา เมื่อเอกสารดังกล่าวรักษาสันติภาพไว้ไม่สำเร็จ พระเจ้าจอห์นได้ทยึดเอาปราสาทบาร์กลีย์มาอยู่ภายใต้การควบคุมของกษัตริย์ รอเบิร์ตถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1220 โดยไม่ได้ปราสาทกลับคืนมา แต่ในปี ค.ศ. 1223 ปราสาทถูกคืนให้แก่ทอมัส น้องชายและทายาทของเขา ตระกูลยังคงอยู่ในแถวหน้าของเหตุการณ์ระดับชาติ โดยมีส่วนร่วมในสงครามบารอนครั้งที่สองและการออกทำศึกของกษัตริย์บนผืนทวีปและในสกอตแลนด์ ทอมัส เดอ บาร์กลีย์ ลอร์ดบาร์กลีย์ที่ 6 ต่อสู้ที่สมรภูมิแบนน็อคเบิร์นในปี ค.ศ. 1314 และถูกชาวสกอตจับกุมตัวไปเรียกคาไถ่

การฆาตกรรมพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2

ทอมัสถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1321 ผู้สืบทอดต่อจากเขาคือมอริสผู้เป็นบุตรชาย เขาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญหลายคนที่ต่อต้านพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และได้ทำการรุกรานดินแดนของฮิว เลอ เดสเปนเซอร์ คนโปรดของกษัตริย์ซึ่งไม่เป็นที่นิยม มอริสถูกจับกุมตัวและจำคุกที่ปราสาทวอลลิงฟอร์ด เขาถึงแก่กรรมที่นั่นในปี ค.ศ. 1326 ในปีเดียวกันพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 สูญเสียอำนาจในการปกครองเมื่อพระราชินีอีซาแบล พระมเหสีผู้หมางใจกับกษัตริย์ และรอเจอร์ มอร์ติเมอร์ เอิร์ลแห่งมาร์ช ได้ทำการรุกรานและบีบบังคับให้พระองค์สละราชสมบัติ ในตอนแรกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถูกขังไว้ที่ปราสาทโคร์ฟในดอร์เซต แต่ประชาชนในท้องถิ่นเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของกษัตริย์ผู้ถูกถอดออกจากบัลลังก์ พระองค์จึงถูกย้ายไปอยู่ที่ปราสาทบาร์กลีย์ ภายใต้การกำกับดูแลของทอมัส เดอ บาร์กลีย์ผู้เป็นเจ้าของปราสาท อดีตกษัตริย์ถูกจองจำในปราสาทตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน ค.ศ. 1327 เรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการเชื่อถือในวงกว้างสันนิษฐานว่าพระองค์ถูกฆาตกรรม อาจจะโดยการรัดคอหรือการเสียบแท่งเหล็กร้อนแดงเข้าไปทางทวาร นักประวัติศาสตร์เอียน มอร์ติเมอร์ได้เสนอข้อสันนิษฐานว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่ได้ถูกฆาตกรรม แต่พระองค์ได้ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1330 ความจริงยังคงเป็นปริศนา ทว่ารอเจอร์ มอร์ติเมอร์ เอิร์ลแห่งมาร์ช และทอมัส เดอ บาร์กลีย์ ถูกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 จับกุมในข้อหาฆาตกรรม รอเจอร์ถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกประหารชีวิต แต่ทอมัสพ้นข้อกล่าวหาเนื่องจากมีหลักฐานว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ปราสาทในช่วงที่เกิดการฆาตกรรม ทอมัสมีชีวิตอยู่จนถึงปี ค.ศ. 1361 และในช่วงที่เขาครอบครอง ปราสาทบาร์กลีย์ถูกปรับโฉมภายในใหม่

ยุคทิวดอร์และหลังจากนั้น

ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 ความต้องการปราสาทในเชิงป้องกันลดน้อยลงมาก ปราสาทจึงถูกปรับปรุงใหม่โดยเน้นไปที่การปรับปรุงห้องให้มีความสะดวกสบายขึ้นเพื่อเป็นที่พักชั้นสูง ปราสาทเป็นบ้านของตระกูลบาร์กลีย์จนกระทั่งวิลเลียม เดอ บาร์กลีย์ได้ยกมันให้แก่พระเจ้าเฮนรีที่ 7 ในปี ค.ศ. 1492 เพื่อแลกกับการได้รับยศเพิ่ม ปราสาทเป็นของกษัตริย์จนถึงปี ค.ศ. 1553 เมื่อมันถูกคืนให้แก่ตระกูล ปราสาทถูกปรับเปลี่ยนหลายครั้งตลอดยุคทิวดอร์เพื่อปรับปรุงให้เป็นที่พักร่วมสมัย

ในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ เจ้าของปราสาทบาร์กลีย์คือจอร์จ เดอ บาร์กลีย์ ปราสาทตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือสำคัญในบริสตอลของฝ่ายสนับสนุนเจ้า มันถูกเปลี่ยนมือไปมาระหว่างสองฝ่ายห้าครั้ง สุดท้ายก็ถูกกองกำลังฝ่ายรัฐสภาโจมตีในปี ค.ศ. 1645 โดยหนึ่งในนั้นคือการโจมตีด้วยปืนใหญ่ซึ่งได้ระเบิดตัวตึกหลักซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง หลังสงครามปราสาทถูกคืนให้แก่ตระกูลบาร์กลีย์ โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามซ่อมแซมส่วนที่ถูกระเบิด ปราสาทอยู่แบบไม่ได้รับการซ่อมแซมใด ๆ จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1920 และได้รับการปรับปรุงอีกครั้งในยุคจอร์เจียน เมื่อรันดอลล์ มาวบราย บาร์กลีย์ เอิร์ลแห่งบาร์กลีย์ได้จัดแบ่งภายในใหม่ เขาหาเงินทุนเพื่อใช้ในการปรับปรุงปราสาทด้วยการขายจัตุรัสบาร์กลีย์ในกรุงลอนดอน

อ้างอิง

แสดงความคิดเห็น
เคล็ดลับ & คำแนะนำ
Carl Griffin
11 september 2016
Beautiful castle with an incredible history. Check out the dungeon where King Edward II was brutally murdered. Before leaving make sure you visit the butterfly house off the shop.
Carl Griffin
11 september 2016
Make sure you gift aid your entrance fee and you can visit as many times you wish over the following year.
László Tóth
25 march 2019
Lovely-lovely beautiful castle! A must-go place. Ask for a guided tour, the guides are very friendly!
Kelly
22 may 2014
If you plan on visiting the neighboring Jenner House, be sure to bring your tickets from Berkeley Castle to get a discounted entrance fee.
Copper Phoenix
3 august 2011
Historic house, owned by the same family for nearly 900 years. A proper Norman castle that has adapted over the years.
Sandro Di Simplicio
20 september 2016
Nice place for an enjoyable afternoon
แผนที่
3 Church Ln, Berkeley GL13 9BN สหราชอาณาจักร ขอเส้นทาง
Mon 9:00 AM–4:00 PM
Tue 10:00 AM–3:00 PM
Wed 9:00 AM–6:00 PM
Thu 9:00 AM–1:00 PM
Fri Noon–4:00 PM
Sat 11:00 AM–9:00 PM

Berkeley Castle ในFoursquare

ปราสาทบาร์กลีย์ ในFacebook

โรงแรมใกล้เคียง

ดูโรงแรมทั้งหมด ดูทั้งหมด
De Vere Tortworth Court

ตั้งแต่วันที่ $128

Malt House

ตั้งแต่วันที่ $557

The Black Horse Inn

ตั้งแต่วันที่ $91

Days Inn Michealwood M5

ตั้งแต่วันที่ $93

Days Inn Michaelwood M5

ตั้งแต่วันที่ $0

Dean Valley Panorama Bed & Breakfast

ตั้งแต่วันที่ $85

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำอยู่บริเวณใกล้เคียง

ดูทั้งหมด ดูทั้งหมด
เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Thornbury Castle

Thornbury Castle is a castle in Thornbury, South Gloucestershire,

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Uley Long Barrow

Uley Long Barrow, also known locally as 'Hetty Pegler's Tump', is a

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Forest of Dean Sculpture Trail

The Forest of Dean Sculpture Trail is a point of interest in the

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Tintern Abbey

Tintern Abbey (Welsh: Abaty Tyndyrn) was founded by Walter de Clare,

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
St Mary's Church, Chepstow

The Priory and Parish Church of St. Mary is located in Chepstow,

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Chepstow Castle

Chepstow Castle (Cymraeg. Cas-gwent), located in Chepstow,

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Piercefield House

Piercefield House is a largely ruined neo-classical mansion designed

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Beverston Castle

Beverston Castle, also known as Beverstone Castle, was originally

สถานที่ท่องเที่ยวที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด ดูทั้งหมด
เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Сад живых бабочек "Миндо"

Сад живых бабочек 'Миндо' (Русский: Сад живых бабочек ) เป็นสถานที่ท่

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Bornholm Butterfly Park

Bornholm Butterfly Park (dansk. Bornholms Sommerfuglepark) is located

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Old Westbury Gardens

Old Westbury Gardens is the former estate of John Shaffer Phipps

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Belvoir Castle

Belvoir Castle (pronounced Beaver)  listen (·info) is a stately home i

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Hedingham Castle

Hedingham Castle in Essex, England, is a Norman motte and bailey

ดูสถานที่ที่คล้ายกันทั้งหมด