พระวิหารในกรุงเยรูซาเลม

พระวิหารในกรุงเยรูซาเลม หรือพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ (อังกฤษ: Temple in Jerusalem หรือ Holy Temple; ภาษาฮิบรู: בית המקדש (Bet HaMikdash = The Holy House)) หมายถึงพระวิหารที่สร้างต่อเนื่องกันมาบนเทมเพิลเมานท์ (Temple Mount) ในตัวเมืองเก่าเยรูซาเลม ตามประวัติศาสตร์แล้วตำแหน่งนี้มีการก่อสร้างพระวิหารมาแล้วสามครั้ง และพระวิหารที่สาม (The Third Temple) ที่เป็นพระวิหารที่ยังไม่ได้สร้างที่กล่าวถึงใน “Jewish eschatology” ตามความเชื่อโบราณของศาสนายูดาย พระวิหารหรือเทมเพิลเมานท์เป็นอุปมาของสถานที่ของพระเจ้า (ภาษาฮิบรู: Shechina) บนโลกมนุษย์ โดยสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบฟินิเชียน

ตามคัมภีร์ฮีบรูแล้วพระวิหารแรก (First Temple) สร้างโดยพระเจ้าโซโลมอน (ปกครองระหว่าง 971 - 931 ก่อนคริสต์ศักราช) พระวิหารแรกเป็นศูนย์กลางของศาสนายูดาห์ตามบทบันทึกคัมภีร์ฮีบรู เป็นที่เดียวที่เป็นที่ใช้ในการทำพิธีสังเวย ตัวอาคารพระวิหารสร้างแทนพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เดิมที่มีแท่นบูชาที่สร้างหยาบๆ บนเนิน “พระวิหารแรก” ถูกทำลายโดยพวกบาบิโลน เมื่อ 587 ก่อนคริสต์ศักราชเมื่อบาบิโลนเข้าปล้นสดมภ์ทำลายกรุงเยรูซาเลม การสร้างพระวิหารใหม่เริ่มขึ้นเมื่อปี 537 ก่อนคริสต์ศักราชแต่หยุดชะงักไปและมาเริ่มใหม่เมื่อปี 520 ก่อนคริสต์ศักราช และเสร็จเมื่อปี 516 ก่อนคริสต์ศักราช และสถาปนาในปี 515 ก่อนคริสต์ศักราช

พระธรรมเอสรา (Book of Ezra) กล่าวว่าการสร้างพระวิหารเป็นคำสั่งของพระเจ้าไซรัสมหาราชและอนุมัติโดยพระเจ้าดาไรอัสมหาราช ห้าร้อยปีต่อมาพระวิหารที่สอง (Second Temple) ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยพระเจ้าแฮรอดมหาราชราว 20 ปีก่อนคริสต์ศักราช และรู้จักกันในชื่อพระวิหารของแฮรอด ต่อมาก็ถูกทำลายโดยโรมัน ในปี ค.ศ. 70 ระหว่างการล้อมเมืองเยรูซาเลม แต่กำแพงรอบนอกที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มิได้ถูกทำลาย และเชื่อกันอยู่เป็นเวลานานว่ากำแพงตะวันตกเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่

ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมาเทมเพิลเมานท์ก็เป็นที่ตั้งของโดมทองแห่งเยรูซาเลม (Dome of the Rock) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม และ มัสยิดอัล-อัคซา (al-Aqsa Mosque) จากสมัยใกล้เคียงกัน

“Jewish eschatology” ทำนายการก่อตั้งพระวิหารที่สามในเยรูซาเลมพร้อมกับการมาของเมสไซยาห์ของชาวยิว (Jewish messianism) ฉะนั้นผู้ที่นับถือศาสนายูดายนิกายออร์โธด็อกซ์และคอนเซอร์เวทีฟมีความเชื่อในการสร้าง “พระวิหารที่สาม” ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2007 ก็มีการพบส่วนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนเหลือจากพระวิหารที่สองระหว่างการติดตั้งท่อในบริเวณนั้น ต่อมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนักโบราณคดีก็อ้างว่าได้พบสิ่งของที่เชื่อว่าเป็นของ “พระวิหารที่หนึ่ง”

ที่มา

พระคัมภีร์เรียกพระวิหารแห่งเยรูซาเลมว่า “Beit HaMikdash” หรือ “พระวิหาศักดิ์สิทธิ์” และเป็นพระวิหารเดียวในเยรูซาเลมที่ใช้ชื่อนี้ แต่ก็ได้รับชื่ออื่นๆ ในคัมภีร์ฮิบรูที่รวมทั้ง “Beit Adonai” (พระนิเวศของพระเจ้า) หรือเพียง “Beiti” (นิเวศของฉัน) หรือ “Beitechah” (พระนิเวศของพระองค์)

พระวิหารแห่งโซโลมอน (พระวิหารของพระเจ้าโซโลมอน) สร้างตามแบบที่พระเจ้าทรงวางไว้โดยเฉพาะให้แก่พระเจ้าเดวิด พระเจ้าเดวิดทรงหวังว่าจะสร้างพระวิหารแรกแต่ถูกพระเจ้าทรงสั่งห้ามและบอกให้รอให้พระโอรสเป็นผู้สร้างพระวิหารแรก ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าเดวิดพระองค์ก็เริ่มรวบรวมวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่จะนำมาใช้ต่อไป ตั้งแต่ไม้, หินสำหรับสร้างฐาน ไปจนถึงทอง, เงิน, บรอนซ์ และโลหะต่างที่ต้องใช้ จุดประสงค์ของการสร้างพระวิหารก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งหีบพันธสัญญา (Ark of the Covenant), สำหรับชนทุกชาติโดยเฉพาะชนชาติอิสราเอล และสำหรับเป็นที่ให้ทุกคนสามารถเข้ามาสักการบูชาพระเจ้าแห่งอิสราเอลได้

พระวิหารแรกเรียกว่า “พระวิหารโซโลมอน” สันนิษฐานกันว่าสร้างโดยผู้ที่มาจากชนสิบสองเผ่าแห่งอิสราเอล (12 tribes of Israel) เพราะทั้งสิบสองเผ่ามารวมตัวกันภายใต้การนำของพระเจ้าเดวิดและต่อมาพระเจ้าโซโลมอน หลังจากรัชสมัยของพระเจ้าโซโลมอนแล้วเรโฮโบม (Rehoboam) พระราชโอรสผู้มีพระนิสัยที่หยิ่งยโสที่ทำให้เผ่าอิสราเอล 10 แยกตัวออกไปก่อตั้งเป็นอาณาจักรเหนือ ขณะที่เผ่ายูดาห์, เบ็นจามิน และส่วนใหญ่ของลีไวยังอยู่กับราชอาณาจักรยูดาห์ พระวิหารที่สองต่อมาสร้างโดยเผ่ายูดาห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ผู้ที่ถูกพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar) นำไปเป็นเชลยราว 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช เผ่าอิสราเอล 10 อื่นขณะนั้นก็สลายตัวไปก่อนหน้านั้นแล้วหลายร้อยปีเมื่ออาณาจักรถูกทำลายโดยราชอาณาจักรอัสซีเรีย (Assyria)

พระวิหารแรกและพระวิหารที่สอง

พระวิหารทั้งสองครั้งสร้างต่อเนื่องกันบนเทมเพิลเมานท์ในกรุงเยรูซาเลม:

พระวิหารแรกหรือพระวิหารโซโลมอนสร้างราวหนึ่งพันปีก่อนคริสต์ศักราชและได้รับการบ่งทางดาราศาสตร์ว่าสร้างเมื่อ 957 ปีก่อนคริสต์ศักราช แทนที่แท่นบูชาเดิม พระวิหารนี้มาถูกทำลายโดยพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 เมื่อ 586 ปีก่อนคริสต์ศักราช ฉะนั้นพระวิหารแรกจึงตั้งอยู่ราว 375 ก่อนที่จะถูกทำลาย ธรรมเนียมทัลมุด (Talmud) กล่าวว่า 410 ปี ตัวสิ่งก่อสร้างมีบทบาทสำคัญในธรรมเนียม

พระวิหารที่สองสร้างหลังจากที่พระเจ้าไซรัสมหาราชพระราชทานพระบรมราชนุญาตให้ชาวยิวกลับมาจากบาบิโลนหลังจากถูกจับไปเป็นเชลยโดยพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ การย้ายกลับมาเกิดขึ้นราว 537 ปีก่อนคริสต์ศักราช และจากที่ชะงักการก่อสร้างไปหลายครั้งในที่สุดก็สร้างเสร็จในปี 516 ปีก่อนคริสต์ศักราช สัดส่วนของเทมเพิลเมานท์ขณะนั้นคือ 150 เมตร x 50 เมตร

พระวิหารที่สองถูกทำลายโดยจักรวรรดิโรมันภายใต้การนำของไททัส ใน ค.ศ. 70 ก่อนหน้านั้นพระวิหารที่สองก็ถูกรื้อโดยนายทหารโรมันปอมเปย์ (Pompey) เมื่อยึดเยรูซาเลมเมื่อ 63 ปีก่อนคริสต์ศักราช นักประวัติศาสตร์โจซีฟัสบันทึกว่าปอมเปย์มิได้ยึดสิ่งของใดๆ จากพระวิหารหรือจากที่เก็บสมบัติของพระวิหาร แต่สังหารปุโรหิตหลวงที่มายืนขวางไม่ให้เข้าพระวิหาร

ในที่สุดปอมเปย์ก็สิ้นอำนาจและเสียชีวิตเมื่อถูกตามไล่สังหาร ซึ่งชนยิวเห็นว่าเป็นการลงโทษโดยพระเจ้า ประมาณ 20 ปีก่อนคริสต์ศักราชพระเจ้าแฮรอดมหาราชก็ทรงเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์กลุ่มสิ่งก่อสร้างของพระวิหารเพื่อจะให้มีความใหญ่โตและมีความเป็นสง่าขึ้นกว่าเดิม แต่แทบจะยังไม่ทันสร้างเสร็จก็ถูกทำลายอย่างไม่เหลือหรอจนถึงฐานโดยจักรวรรดิโรมัน

ระหว่างการปฏิวัติครั้งสุดท้ายของชนยิวต่อการยึดครองของโรมันราวระหว่างปี ค.ศ. 132 ถึงปี ค.ศ. 135ไซมอน บาร์ โครห์บา (Simon bar Kokhba) และราไบอคิวา ต้องการจะสร้างพระวิหารใหม่แต่การปฏิวัติล้มเหลวและชาวยิวถูกห้ามไม่ให้เข้ากรุงเยรูซาเลมโดยจักรวรรดิโรมัน.

การพยายามสร้างพระวิหารใหม่ริเริ่มขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 363 เมื่อจูเลียนผู้เลิกศรัทธา (Julian the Apostate) สั่งให้บูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเยรูซาเลมเพื่อเป็นการแสดงการประท้วงคริสต์ศาสนาแต่ไม่สำเร็จ นักประวัติศาสตร์นอกศาสนาร่วมสมัยอัมมิอานัส มาร์เซลลินัส (Ammianus Marcellinus) บันทึกว่ามีเปลวเพลิงพลุ่งขึ้นมาจากฐานและฆ่าคนงานไปหลายคน[]

พระวิหารที่สาม

ดูบทความหลักที่: พระวิหารที่สาม

ตั้งแต่พระวิหารที่สองถูกทำลายไปการสวดมนต์สำหรับการก่อสร้างพระวิหารที่สามก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสวนมนตร์ประจำวันสามครั้งของชาวยิว แต่คำถามที่ว่าเมื่อใดที่จะเหมาะสมในการสร้างพระวิหารที่สามก็ยังเป็นที่ไม่ตกลงกันในบรรดาชาวยิว บางกลุ่มก็เห็นด้วยกับการสร้างแต่บางกลุ่มก็ไม่เห็นด้วย ขณะที่การขยายตัวของศาสนาเอบราฮัมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 เป็นต้นมาเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกันในความเป็นเจ้าของกรุงเยรูซาเลมซึ่งเป็นเมืองสำคัญของทั้งสามศาสนา--ศาสนายูดายห์, ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม นอกจากนั้นที่ตั้งของกรุงเยรูซาเลมในปัจจุบันก็เป็นการยากที่จะก่อสร้างพระวิหารใหม่บนบริเวณที่ในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสุเหร่าอัล-อัคซา และโดมออฟเดอะร็อคซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม

แผนผังพระวิหาร

ตามคัมภีร์ทัลมุดพระวิหารมี “Ezrat Nashim” (เอซรัท นาชิม) บริเวณสำหรับสตรีทางด้านตะวันออก และบริเวณหลักทางด้านตะวันตก บริเวณหลักมีบริเวณสำหรับฆ่าสัตว์สำหรับการสังเวย และ “Mizbaeach” หรือแท่นบูชานอกที่ใช้เป็นที่เผาสิ่งที่ใช้ในการสักการะเกือบทั้งหมดและเป็นที่เทหรือพรมเลือด ตัวอาคารพระวิหารประกอบด้วย “Ulam” (อูลาม) หรือห้องรอ (antechamber), “Heichal” (ไฮคาล) และ “Kadosh Hakadashim” (คาโดช ฮาคาดาชิม) หรือห้องศักดิ์สิทธิ์สูงสุด(ห้องอภิสุทธิสถาน) ห้องไฮคาลกับห้องคาโดช ฮาคาดาชิมแยกจากกันด้วยกำแพงในพระวิหารแรกแต่ในพระวิหารที่สองด้วยม่านสองผืน ห้องไฮคาลเป็นที่เก็บเชิงเทียนเมโนราห์ (Menorah), แท่นขนมปัง (Showbread) และแท่นของหอม (Incense Altar)

ลานกลางมีสิบสามประตู ทางด้านใต้เริ่มจากทางมุมตะวันตกเฉียงใต้มีสี่ประตู:

  • “Shaar Ha'Elyon” (ประตูบน)
  • “Shaar HaDelek” (ประตูฟืน) เป็นประตูสำหรับนำฟืนเข้าพระวิหาร
  • “Shaar HaBechorot” (ประตูบุตรคนโต) เป็นประตูสำหรับผู้มีบุตรคนโตที่นำสัตว์สำหรับพิธีสังเวยและพ่อและลูกเข้าเพื่อทำพิธี “Pidyon HaBen”
  • “Shaar HaMayim” (ประตูน้ำ) ประตูสำหรับนำ Water Libation เข้ามาสำหรับเทศกาล “Sukkot”

ทางด้านเหนือเริ่มจากทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือมีสี่ประตู:

  • “Shaar Yechonyah” (ประตูเยโคนยาห์) เป็นประตูสำหรับผู้สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าเดวิดเข้าและเยโคนยาห์ออกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกจับ
  • “Shaar HaKorban” (ประตูสักการะ) เป็นประตูสำหรับนักบวชที่นำเครื่องสักการะ “kodshei kodashim” เข้า
  • “Shaar HaNashim” (ประตูสตรี)
  • “Shaar Hashir” (ประตูนักดนตรี) เป็นประตูทางเข้าสำหรับนักดนตรีและเครื่องดนตรี

ทางด้านตะวันออกเป็น “Shaar Nikanor” ระหว่างลานฝ่ายสตรีและลานหลักของพระวิหารมีประตูเล็กๆ สองประตูๆ ซ้ายและประตูขวาซึ่งไม่มีความสำคัญเท่าใดนัก และมีอีกสองประตูที่ไม่มีชื่อ

พระวิหารในบทเขียนของผู้เผยพระวจนะ

พระวิหารในพระคัมภีร์บรรยายมโนทัศน์ของการปรากฏตัวของพระเจ้ามายังที่ตั้งของพระวิหาร

อิสยาห์บันทึกว่า “ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับ ณ พระที่นั่งสูงและเทิดทูนขึ้น และชายฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร” (พระธรรมอิสยาห์ 6:1) ในบันทึกของเยเรมีย์ “เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ ขออย่าทรงเกลียดพวกข้าพระองค์ ขออย่าให้หลู่เกียรติแห่งพระที่นั่งอันรุ่งเรืองของพระองค์ ขอทรงระลึกและอย่าทรงหักพันธสัญญาของพระองค์ซึ่งมีไว้กับข้าพระองค์” (เจอเรไมห์ 14:21) และกล่าวว่า “ที่ตั้งแห่งสถานบริสุทธิ์ของเราทั้งหลาย เป็นพระที่นั่งรุ่งเรืองซึ่งตั้งอยู่สูงตั้งแต่เดิมนั้น” (เจอเรไมห์ 17:12) อิสยาห์กล่าวถึงความสำคัญของการสวดมนต์เท่ากับการทำพิธีสังเวยในพระวิหารและถึงจุดประสงค์โดยทั่วไป:

คนเหล่านี้เราจะนำมายังภูเขาบริสุทธิ์ของเรา และกระทำให้เขาชื่นบานอยู่ในนิเวศอธิษฐานของเรา เครื่องเผาบูชาของเขาและเครื่องสักการบูชาของเขา จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเรา เพราะนิเวศของเราเขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐาน สำหรับบรรดาชนชาติทั้งหลาย (อิสยาห์ 56:7)

พิธีกรรม

พระวิหารเป็นที่ประกอบการสักการบูชาที่บรรยายในคัมภีร์ฮีบรูที่รวมทั้งการสังเวยประจำวันเช้าและบ่าย และการสังเวยพิเศษในวันสะบาโต (Shabbat) และวันสำคัญทางศาสนาของศาสนายูดายอื่นๆ ชนเลวีขับเพลงสดุดีระหว่างพิธี หรือเพลงสดุดีที่เหมาะแก่โอกาสตามความเหมาะสมเช่นในโอกาสขอบคุณพระเจ้า

อุปมาของสวนอีเด็น

ลานภาพในพระวิหารโซโลมอนเต็มไปด้วยต้นไม้, ดอกไม้ และน้ำพุเพราะ แต่เดิมผู้สร้างพระวิหารตั้งใจจะให้เป็นเป็นการสร้างสวนอีเด็น

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระวิหารแรกและพระวิหารที่สองแห่งเยรูซาเลม วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ การทำลายพระวิหารแห่งเยรูซาเลม

แสดงความคิดเห็น
เคล็ดลับ & คำแนะนำ
Thomas Parisot
10 january 2017
You have two opportunities a day to enter this sacred place and it's worth it: quiet, beautiful and peaceful.
Linda B
13 march 2013
Women should bring head covering and cover their shoulders, men cannot wear shorts. Only Muslim religious articles are permitted.
B.E.K
30 october 2018
Mescid-i Aksa ve Sahraül Kubbe’nin bulunduğu yüksek tepe. Cumartesi günleri sadece müslümanlar girebiliyor. Müslümanlar için Mescid-i Aksa, Mekke ve Medine’den sonraki en kutsal yerdir.
Leo Pérez Ramos
31 august 2019
Un territorio compartido entre musulmanes y judíos, se divide conforme a los monumentos persistentes y lo que representan para ellos. Aunque también para los cristianos tiene alta relevancia.
Kevser Ozdemir
25 june 2019
Hz Muhammedin göğe yükseldiği yer.
Marina Azaria
13 august 2020
Ощущаешь себя ближе с богом тут

โรงแรมใกล้เคียง

ดูโรงแรมทั้งหมด ดูทั้งหมด
Brand new gem in Talbyeh with Garden

ตั้งแต่วันที่ $191

Best Location Historic Boutique Apartment

ตั้งแต่วันที่ $139

A luxurious apartment in the center of Jerusalem

ตั้งแต่วันที่ $0

Ritz Hotel Jerusalem

ตั้งแต่วันที่ $0

Prima Royale Hotel

ตั้งแต่วันที่ $126

The Inbal Jerusalem

ตั้งแต่วันที่ $315

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำอยู่บริเวณใกล้เคียง

ดูทั้งหมด ดูทั้งหมด
เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
โดมทองแห่งเยรุซาเล็ม

โดมทองแห่งเยรุซาเล็ม (อาหรับ: مسجد قبة الصخرة‎, ทับศัพ

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
เนินพระวิหาร

เนินพระวิหาร (ฮีบรู: הַר הַבַּיִת‎, อังกฤษ: Temple Mount) หรื

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Fountain of Qayt Bay

Fountain of Qayt Bay or Sabil Qaitbay is a domed public fountain

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Fountain of Qasim Pasha

The Fountain of Qasim Pasha (Arabic: سبيل قاسم باشا‎) also known as

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Little Western Wall

The Little Western Wall, (Hebrew: הכותל הקטן‎, HaKotel HaKatan),

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
มัสยิดอัลอักศอ

มัสยิดอัลอักศอ (อาหรับ: المسجد الاقصى‎, อังกฤษ: Al-Aqsa M

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Old City (Jerusalem)

The Old City (Hebrew: העיר העתיקה‎, HaEer HaAtika, Arabic: البلدة القد

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Solomon's Stables

Solomon's Stables is the common name of an area located directly

สถานที่ท่องเที่ยวที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด ดูทั้งหมด
เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Mount of Olives

The Mount of Olives (also Mount Olivet, עברית. הר הזיתים, Har HaZeitim

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
เนินพระวิหาร

เนินพระวิหาร (ฮีบรู: הַר הַבַּיִת‎, อังกฤษ: Temple Mount) หรื

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
Solomon's Stables

Solomon's Stables is the common name of an area located directly

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
ภูเขาไฟเมานาเคอา

ภูเขาไฟเมานาเคอา (English. Mauna Kea) เป็นภูเขาไฟที่สงบแล้ว ตั้งอยู่ใ

เพิ่มในรายการที่ต้องการ
ฉันเคยมาที่นี่
มีผู้เข้าชม
เมานต์อะทอส

เมานต์อะทอส (English. Mount Athos) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ

ดูสถานที่ที่คล้ายกันทั้งหมด