ปะตูไซ (ลาว: ປະຕູໄຊ; ในอดีตเรียกว่า "อะนุสาวะลี") เป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง ใจกลางนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ก่อสร้างในระหว่างปี ค.ศ. 1962 ถึงปี ค.ศ. 1968 เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ปะตูไซถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง นำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี และพญานาค เป็นต้น และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและสวนปะตูไซ
ปะตูไซ เป็นคำประสมมาจากคำว่า "ปะตู" (ປະຕູ) หมายถึง "ประตู" และ "ไซ" (ໄຊ) มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า "ชะยะ" หมายถึง "ความชนะ" ความหมายของคำจึงเหมือนเช่นเดียวกับคำว่า "ประตูชัย" ในภาษาไทย ส่วนการถอดเป็นอักษรโรมันของคำว่า ปะตูไซ นั้นมีหลายรูปแบบ ได้แก่ Patuxai, Patuxay, Patousai และ Patusai
หลังจากประตูไซสร้างเสร็จ เป็นช่วงที่ลาวมีการปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ สถานที่นี้ถูกรู้จักกันในชื่อ "อะนุสาวะลี" (ອານຸສາວະລີ) ซึ่งหมายถึง "ความทรงจำ" เนื่องจากเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับการสดุดีวีรชนจากการประกาศเอกราช ต่อมาในปี ค.ศ. 1975 ขบวนการปฏิวัติฝ่ายคอมมิวนิสต์ปะเทดลาว ยึดอำนาจรัฐบาลได้เด็ดขาดและพระมหากษัตริย์สละราชสมบัติ ทำให้เปลี่ยนการปกครองจากแบบเดิมเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ จึงเปลี่ยนชื่ออะนุสาวะลีเป็น "ปะตูไซ" (ປະຕູໄຊ) เพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะของคณะปฎิวัติ จนใช้เรียกกันถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ปะตูไซยังถูกเรียกว่าเป็นอาร์กเดอทรียงฟ์แห่งเวียงจันทน์ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส และมีชื่อเล่นเรียกว่า "รันเวย์แนวตั้ง" เพราะใช้ปูนซิเมนต์สำหรับสร้างสนามบิน
ประตูไซสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1962 มีจุดประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับสดุดีแก่ทหารลาวที่เสียชีวิตในระหว่างการกอบกู้เอกราชจากประเทศฝรั่งเศษในสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกออกแบบโดย Tham Sayasthsena สถาปนิกชาวลาว ในปี ค.ศ. 1957 แบบของเขาได้รับเลือกจากกรมโยธาธิการ กรมวิศวกรการทหาร และสถาปนิกเอกชนอีกจำนวนมาก โดย Tham ได้รับเงินค่าตอบแทนเป็นจำนวน 30,000 กีบสำหรับงานออกแบบของเขา วัสดุที่ใช้ก่อสร้างเป็นปูนซิเมนต์จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ไว้ใช่สำหรับสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ แต่รัฐบาลลาวในสมัยนั้นนำมาใช้ในการสร้างปะตูไซแทน ปะตูไซหยุดการสร้างในปี ค.ศ. 1968 แต่ไม่ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ตามแบบที่ออกแบบไว้ในตอนแรก เพราะสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมาปั่นป่วน รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 63 ล้านกีบ